............................
........................................
หลังจากที่อะไรลงตัวจนหมด ธุระที่มาทำให้พ่อตัวเองเสร็จสิ้นเรียบร้อย
ฮิโรกิ ก็เตรียมตัวที่จะกลับบ้าน เพราะอารมณ์เที่ยวของเขาวันนี้ มันหมดไปกับ คนบ้าคนนึงที่เจอ ในลิฟต์ ..ชาตินี้อย่าได้มาเจอกันอีกนะ ถ้าเจออีกล่ะก็ จะกำจัดให้ออกไปจากโลกเลยคอยดู คนที่มันทำให้ฮิโรกิ หน้าแตกได้แบบนี้
คุณหนูจะไปที่ไหนต่อหรือเปล่าครับ นี่ก็เพิ่งจะ บ่ายสามเองนะครับ ยังพอมีเวลา คุณโชตะถามขึ้นหลังจากที่ออกจากห้อง การ์เด้นโกล์ด มาแล้ว
อื้ม ไม่ดีกว่า อารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ฮิโรกิที่อารมณ์ปรวนแปรง่ายนั้น กล่าวตอบ เล่นเอาคุณโชตะ ตามไม่ทัน เมื่อเช้าตอนมาถึง ยังเป็นคนละแบบกับตอนนี้ไม่ใช่หรือไงหว่า
แล้วคุณหนูจะทานข้าวที่นี่เลยหรือ จะกลับไปทานข้าวที่บ้านน่ะฮะ โชตะยังคงถามต่อไป
กลับไปที่บ้านดีกว่า เอาเป็นว่า รีบกลับตอนนี้เลยดีกว่า เผื่อคาซึ จะรอฉันอยู่ที่บ้าน จะได้กินข้าวกับคาซึ ป่านี้พี่จินก็คงจะถึงแล้วด้วยมั้ง
ฮิโรกิตอบออกไป พอถึงชั้นแรกของโรงแรม กำลังจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา จิ้มไปเบอร์เพื่อนรัก สายตาก็พลันไปเห็นหลังคุ้นของใครบางคนที่เพิ่งเจอ
อะไรโลกมันจะกลมแบบนี้ ไม่คิดว่าจะเจอตอนก่อนกลับอีกรอบ ฮิโรกิว่าพูดเร็วๆ ก่อนรีบเดินไวๆ จนคนที่เดินตามมาข้างหลัง ตามอารมณ์ไม่ทัน ต้องรีบก้าวเท้ายาวๆ ให้ทันคุณหนูเล็ก ... นี่ฟ้ากำลังกลั่นแกล้ง โชตะใช่ไหมหว่า ... เลขาอายุ 30กว่าๆ อดจะคิดไม่ได้
....ปึก....
ไหล่บางๆของฮิโรกิ กระแทกเข้าที่ไหล่ของอีกคน เป็นผลให้คนที่ไม่ทันตั้งตัวเซไปข้างๆ ฮิโรกิ หันมาแลบลิ้นใส่คนที่กำลังมองมาทางเข้า พร้อมกับยิ้มหัวเราะสะใจ
หายกัน คนเจ้าคิดเจ้าแค้นกล่าวก่อนจะออกไปยังรถที่จอดรอรับอยู่ โดยที่คุณโชตะวิ่งตัวปลิว ตามไปติดๆ รถลีมูซีนสีดำประจำตระกูลก็แล่นออกไปจากหน้าโรงแรม ปล่อยให้ นิชิกิโด เรียว ที่ยังงไม่หาย มองตามไป
คนอะไรกัน ตลกชะมัด...แปลกจริง เรียวหัวเราะหึ ลงลำคอ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมถึงไม่โกรธคนๆนั้น หากเป็นคนอื่น เขาคงจะไม่ยืนหน้านิ่งเฉยแบบนี้หรอก ได้มีเรื่องกันไปแล้ว ด้วยนิสัยที่ไม่ได้ยอมใครง่ายๆ
นิชิกิโด เรียวกำลังจะเดินจากไป ถ้าหากสายตาไม่ทันเห็นโทรศัพท์เครื่องจิ๋วที่มันหล่นอยู่กับพื้น มองดูอีกที ไอ่สายห้อยโทรศัพท์เครื่องนั้นก็ขาดเสียด้วย พอสังเกตที่กระเป๋าที่ตัวเองถืออยู่ในมือก็เห็นว่ามันติดอยู่ที่กระเป๋าของเขาอยู่ส่วนนึง
สงสัยจะของ คนๆนั้น เรียวหยิบมันขึ้นมา ก่อนจะเก็บเข้าไปในสูท และไปขึ้นรถที่จอดรออยู่
กับรถอีกคันที่กำลังวุ่นวายไม่ใช่น้อย
เอ๊ะ...โทรศัพท์ คุณโชตะเห็นโทรศัพท์ผมไหมฮะ ผมว่าก่อนจะออกจากโรงแรม ผมก็ถืออยู่ในมือนะ ฮิโรกิ หันซ้ายหันขวา หาไปทั่วรถ ล่วงเข้าไปในเสื้อหรือกระเป๋ากางเกงก็ไม่เห็นมี
คุณหนูไปลืมไว้ที่ไหนหรือเปล่าครับ หรือว่าไม่ได้เอามาจากที่บ้านแล้วคุณหนูคิดว่าเอามาด้วย โชตะตอบไปตามที่ตนคิด แต่ก็ต้องมาวุ่นวายชวนค้นคว้าโทรศัพท์เครื่องจิ๋วนั้นด้วย
อะไรกัน ผมไม่ได้สติฟั่นเฟือนนะฮะ จะได้ลืมอะไรง่าย ก็เมื่อเช้าตอนนั่งในรถ ผมก็ยังโทรหาคาซึอยู่เลย คุณโชตะจำไม่ได้หรอฮะ ฮิโรกิพูด ก่อนจะถอนหายใจออก
สงสัยจะหล่น เอาไว้ซื้อใหม่ก็ได้ แต่ตอนนี้ขอยืนโทรศัพท์ หน่อยได้ไหมฮะ คุณโชตะ อยู่ๆก็เปลี่ยนอารมณ์กะทันหัน ไม่ได้เอ๊ะใจอะไรทั้งนั้น หันไปยิ้มให้คุณโชตะ ก่อนจะรับมือถือของคุณอาเลขฯ มาไว้ในมือ พร้อมจิ้มออกไปยังเบอร์ของเพื่อนรัก
...............................
...........................................
Tlu tlu tlu truuuu tluu..
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ปลุกเอาคนที่กำลังนอนหลับอยู่บนโซฟาลืมตาตื่นขึ้นอย่างัวเงีย หยิบเอาโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟาขึ้นมา พอเห็นเบอร์แปลกๆขมวดคิ้ว อันเป็นเอกลักษณ์
สวัสดีครับ คาซึยะพูดครับ นั้นใครไม่ทราบฮะ
เราเองคาซึ ... ปลายสายที่ตอบกลับมา ทำให้คาซึยะรู้ทันทีว่าเป็นใคร
ฮิโระ ... จะกลับมาถึงตอนไหนน่ะ นี่เรารอนานแล้วนะ ไม่มีอะไรทำเลย แล้วมีเรื่องจะเล่าให้ฟังด้วย คาซึยะพูดเด้งตัวนั่งจนก้นแทบไม่ติดกับโซฟา
คงจะเกือบค่ำล่ะมั้ง ไม่รู้สิ แต่จะรีบกลับเลย ตอนนี้ก็ออกมาได้สักพักแล้วล่ะ พี่จินกลับมายังล่ะ
ก็ต้องกลับแล้วสิ นายนี่ถามแปลกๆ คาซึยะตอบพลางย่นจมูก สงสัยว่าเพื่อนรักคงจะแซวเป็นแน่ เพราะรู้ว่าเมื่อเช้าถ้าไม่โทรมาหาคาซึยะ มีหวัง รถบ้านอากานิชิ ต้องไปรอ คุณหนูเล็กแห่งคาเมนาชิ นานแน่ๆ
ฮิโรกิที่พอจะเดาสีหน้าของเพื่อนตัวเองออกก็หัวเราะ คิกคัก
นี่ ฮิโระ เรามีเรื่องจะเล่าให้ฟัง..วันนี้อ่ะตอน.. ยังไม่ทันที่จะได้เล่าอะไร เพื่อนรักก็ ขัดขึ้นมาเสียก่อน
เราเองก็มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง แต่ไว้ถึงบ้านก่อนแล้วกันนะ คาซึ พอดีเราใช้โทรศัพท์ คุณโชตะนะ เกรงใจคุณอาเลขาฯ เขา แค่นี้ก่อนนะ ฮิโรกิว่า ยังไม่ทันที่คาซึยะจะตอบรับอะไร ปลายสายก็ชิงวางสายไปเสียก่อน
ทำให้คนที่อยู่ในห้องรับแขก ไม่สบอารมณ์เอาเป็นอย่างมาก แบบนี้ต้องงอน ...
ร่างเล็กลุกออกจากห้องรับแขกไป กำลังจะออกไปนั่งเล่นรอฮิโรกิ ที่สวนของบ้านอากานิชิ เสียหน่อย คุณชายรองของบ้านก็เดินลงมาจาก ชั้นสองพร้อมกับเรียกคาซึยะเอาไว้
คาเมะ เดี๋ยวถ้าคุณพ่อ หรือพี่ยู หรือ ฮิโรกิ กลับมา บอกด้วยนะว่าฉันออกไปข้างนอก คงกลับดึก จะไปหาเพื่อนเก่าเสียหน่อย ได้ยิน อะไรแว่วๆว่า กลับดึก คาซึยะก็อยากจะไปเจาะลมยางรถทุกคันในบ้านอากานิชิ ให้หมด เรื่องไรจะให้นายนี่ออกจากบ้านล่ะ อย่างนี้ เขาก็อดเห็นหน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บของนายนั้นน่ะสิ
ได้ยินที่ฉันบอกหรือเปล่าล่ะ อากานิชิ จิน พูดแกมดุ เดินเข้ามาใกล้ คนหน้าเหวอนิดๆ ก็ดีดเข้าไปที่หน้าผากอย่าจัง ด้วยความที่นึกสนุก ก็ดูหน้าอีกคนเข้าสิ ทำหน้าซะตลกเชียว
โอ๊ย....นี่คุณ มันจะ... พอโดนดีด หน้าผากเข้าไป ก็ทำให้สติที่ลอยออกไปกลับมา กำลังจะด่าไอ่คนบังอาจคนนั้น ก็พบว่านายนั้น เดินไปที่รถที่มาจอดไว้แล้ว แถมยังตะโกนสั่งกำชับอีกรอบ
อย่าลืมบอกซะล่ะ ก่อนที่รถเฟอร์รารี่สีแดง จะติดเครื่องและ ขับออกไปจากหน้าเทอเรซ
โอ๊ยยยยยยยย..... แล้วแบบนี้จะแก้แค้นยังไงล่ะนี่ ฮิโรกิ กลับมาสักทีเซ่ คาซึยะบู้หน้าอีกครั้งก่อนจะกระทืบเท้าเดินออกไปยังสวนของบ้านอากานิชิ ..ไปรอเหมือนเดิม ....
หมดกัน ภาพพจน์เด็กเรียน .... ของคาซึยะ หมดกัน ...
แล้วมันเพราะใครกันล่ะ ที่ทำให้ คาซึยะ เก็บอารมณ์ไม่อยู่แบบนี้ มันทำให้ คาซึยะคนนี้ เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นไปเสียอย่างนั้น ถ้าไม่ใช่ ..
.... อากานิชิ จิน....
--------------------------------
TO BE CON ..
End Part: Misunderstanding MY BLOGแอบมาฝากตอนท้าย อุอิ แหะๆ